การ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ นั้นเป็นหนึ่งในกระแสที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจจากผักไฮโดรโปนิกส์นั้นเป็นผักที่ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก แถมยังมีคุณค่ามากกว่าการปลูกผักในดินอีกด้วย โดยวันนี้เราได้มีวิธีการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์มาให้ได้ดูกันด้วยดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 เลือกชนิดของผักที่ต้องการ
สำหรับขั้นตอนแรกในการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์เลยก็คือ การเลือกพืชผักที่คุณต้องการปลูก นั่นเอง ขั้นตอนนี้นั้นเป็นขั้นตอนที่สำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากการที่คุณกำหนดชนิดของผักที่ต้องการปลูก นั้นจะทำให้คุณสามารถเลือกวิธีการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ที่เหมาะสมนั่นเอง ตัวอย่างเช่น หากคุณนั้นต้องการปลูกผักสลัด เทคนิคที่เหมาะสมมากที่สุดเลยก็คือ NFT นั่นเอง ซึ่งถ้าหากคุณใช้วิธีอื่นก็จะทำให้ผักของคุณนั้นเจริญเติบโตแบบไม่มีคุณภาพนั่นเอง
ขั้นตอนที่ 2 หาโรงเรือนและเตรียมภาชนะสำหรับการปลูกให้เรียบร้อย
หลังจากที่คุณสามารถเลือกพืชที่คุณต้องการได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปเลยก็คือ การจัดหาโรงเรือนและเตรียมภาชนะสำหรับการปลูกให้เรียบร้อย นั่นเอง โดยจัดเตรียมโรงเรือนนั้นคุณสามารถเเลือกสถานที่ทั้งที่โล่งแจ้งหรือในโรงเรือนก็ได้ ซึ่งสถานที่โล่งนั้นควรเป็นสถานที่ที่มีถ่ายเทอากาศได้ดี โดยที่ติดแสลน เพื่อป้องกันแดดและฝนให้เรียบร้อย ทั้งนี้ สำหรับภาชนะที่ใช้ในการปลูกก็ให้ทำการเจาะรูและติดตั้งเป็นรางปลูกได้เลยนั่นเอง
ขั้นตอนที่ 3 เพาะต้นกล้าของพืชที่ต้องการปลูก
สำหรับขั้นตอนถัดมาเลยก็คือ การเพาะต้นกล้าของพืชที่ต้องการปลูก นั่นเอง หลังจากที่คุณนั้นทำการเลือกพันธุ์ที่ต้องการปลูกและเตรียมโรงเรือนกับภาชนะในการปลูกได้เรียบร้อยแล้ว ให้คุณนั้นทำการเพาะต้นกล้าผักให้ขึ้นมานั่นเอง และเมื่อเราได้ต้นกล้ามาแล้วจึงค่อยย้ายลงรางปลูก ซึ่งวิธีการสำหรับการเพาะต้นกล้านั้นคุณสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น เพาะกล้าด้วยถ้วยเพาะแบบสำเร็จรูป เพาะกล้าในแผ่นโฟม หรือว่าจะเป็นการเพาะกล้าในวัสดุปลูก (เพอร์ไลท์ + เวอร์มิคูไลท์) ก็สามารถทำได้นั่นเอง
ขั้นตอนที่ 4 ทำการเตรียมสารละลายที่มีธาตุอาหารต่อพืช

เมื่อคุณทำการเพาะต้นกล้าเสร็ตเรียบร้อยแล้วนั้น ขั้นตอนต่อไปในการปลูกผัดไฮโดรโปนิกส์เลยก็คือการเตรียมสารละลาสยสำหรับพืชที่คุณต้องการปลูกนั่นเอง โดยส่วนใหญ่แล้ว การทำสารละลายสำหรับผักไฮโดรโปนิกส์นั้นจะนิยมใช้กันอยู่ 2 แบบด้วยกันได้แก่การทำสาระลายที่มีธาตุอาหารแบบเจือจางและแบบเข้มข้นนั่นเอง
ขั้นตอนที่ 5 ควบคุมดูแลคุณภาพของน้ำและเปลี่ยนสารละลายตามเวลาที่เหมาะสม
และขั้นตอนสุดท้ายเลยก็คือ การควบคุมดูแลคุณภาพของน้ำและเปลี่ยนสารละลายตามเวลาที่เหมาะสม นั่นเอง โดยตลอดระยะเวลาการปลูกผักของคุณนั้น ควรควบคุมปริมาณน้ำให้มีคุณภาพที่เหมาะสมตลอดเวลา นอกจากนี้ คุณยังควรเปลี่ยนสารละลายที่มีธาตุอาหารด้วย เพื่อให้ผักได้รับสารอาหารได้อย่างเต็มที่นั่นเอง