ดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นกลุ่มผู้ป่วยที่จำเป็นจะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเรื่องของการรักษา หรือเรื่องของอาหารการกิน วันนี้ผมจะมาแนะนำอาหาร และการใช้แพทย์แผนไทยรักษาโรคเบาหวาน รวมถึงการใช้สมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการ ดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน ได้ด้วยตนเองง่าย ๆ
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานนั้น เป็นโรคที่พบได้บ่อยในช่วงผู้สูงอายุและผู้ใหญ่วัยกลางคน อันด้วยสาเหตุนั้นก็เนื่องมาจากการที่ร่างกายไม่สามารถที่จะใช้น้ำตาลที่กินเข้าไปจนหมดได้ ที่เรียกว่าภาวะดื้อต่ออินซูลิน ดังนั้นจึงทำให้น้ำตาลยังคงหลงเหลืออยู่ในเลือด น้ำตาลที่ไม่สามารถใช้ได้หมดจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ เราจึงเรียกโรคนี้ว่า “โรคเบาหวาน” โรคเบาหวานเป็นโรคที่เราไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ผู้ที่เจ็บป่วยด้วยโรคเบาหวานนี้จำเป็นที่จะต้องพบแพทย์อยู่เป็นประจำ และจะต้องทำการกินยาและตรวจร่างกายอยู่ตลอด ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการรักษาจึงค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
ภาวะอันตรายที่เกิดจากโรคเบาหวานมีอยู่มากมาย เช่น ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้ความเข้มข้นของเลือดสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะช็อกได้ในที่สุด อีกทั้งยังมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ที่จะทำให้ผู้ป่วยนั้นเหงื่อออก ใจสั่น และร่างกายเย็นลง ทำให้อาจหมดสติได้
อาการของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะแสดงอาการออกมา เช่น มีการถ่ายปัสสาวะบ่อย หรือมีการถ่ายปัสสาวะในปริมาณที่มากผิดปกติ เนื่องจากการที่มีระดับน้ำตาลในเลือดเกินไป ทำให้ออกมาทางปัสสาวะ และเนื่องด้วยปัสสาวะบ่อย ทำให้ร่างกายเกิดการขาดน้ำ จึงทำให้หิวน้ำบ่อยและกระหายน้ำตามมาด้วย อีกทั้งผู้ป่วยโรคเบาหวานอาจมีอาการน้ำหนักลดลง ทั้งที่ตนเองนั้นได้รับอาหารหรือกินอาหารบ่อยขึ้น
หลักการในการควบคุมโรคเบาหวาน
แน่นอนว่าการเป็นโรคเบาหวาน คือการที่ระดับน้ำตาลในเลือดผิดปกติ ดังนั้น เราจึงควรรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติอยู่เสมอ ทั้งนี้ก็โดยการปรับพฤติกรรมการกินอาหาร ควบคุมอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล ลดอาหารที่มีไขมันสูง และการหลีกเลี่ยงผลไม้รสหวานต่าง ๆ ควรที่จะตรวจร่างกายเป็นประจำ และได้รับการรักษาอย่างถูกต้องต่อเนื่อง อีกทั้งยังจำเป็นที่จะต้องออกกำลังกายอยู่เสมอ และที่สำคัญ ควรระมัดระวังไม่ให้ร่างกายเกิดบาดแผล เพราะผลแทรกซ้อนของการเป็นเบาหวานคือแผลจะหายช้า
อาหารไทย กับการรักษาโรคเบาหวาน
อย่างที่เราน่าจะรู้ว่า อาหารไทยนั้นนอกจากเราจะกินเพื่อความอร่อยแล้ว อาหารไทยยังมีสรรพคุณเป็นยาและสมุนไพรด้วย หากเราสังเกตวิถีการกินของคนสมัยก่อน คนไทยมักจะกินผักเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันเรามีพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไป เน้นไปที่การบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูงอาหารที่เป็นแป้งและน้ำตาลจำนวนมาก โดยอาจบริโภคผักผลไม้น้อยลง อย่างที่รู้ว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานจำเป็นที่จะต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และสมุนไพรที่สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ เช่น มะระ เตยหอม และตำลึง
มะระส่วนใหญ่ที่เรามักจะบริโภคกันคือมะระขี้นก สามารถที่จะกินได้ทั้งผลดิบแก่ที่ยังไม่สุกและบริเวณที่เป็นยอดอ่อน อาจใช้ต้มและจิ้มกับน้ำพริกกิน สรรพคุณทางยาของมะระ ตามตำราไทย มะระเป็นยารสขม ช่วยทำให้เจริญอาหาร อีกทั้งยังช่วยในการแก้ไข้ ใช้แก้ปากเปื่อยได้ด้วย ยังมีการนำเอามะระจีนมาหั่นและนำไปตากแห้งเพื่อชงกับน้ำร้อน ใช้ในการดื่มแทนน้ำชาช่วยในเรื่องของโรคเบาหวานได้
ตำลึงเป็นผักพื้นบ้านที่มีคุณค่าด้านอาหารที่ค่อนข้างสูง ในตำลึงจะประกอบด้วย วิตามินบี 12 แคลเซียม ฟอสฟอรัส และยังอุดมไปด้วยวิตามินอื่น ๆ อีกด้วย อีกทั้งตำลึงยังสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลาย อย่างที่เรานิยมกินกันเช่น แกงจืด สรรพคุณทางยาของตำลึงนั้น ในใบและเถาตำลึงจะมีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือด
เตยหอม โดยปกติแล้วเราจะคั้นน้ำจากใบเตยเพื่อมาแต่งสีและกลิ่นของขนม น้ำที่ได้จากใบเตยนี้มีสารสกัดสำคัญหลายชนิดเช่น ไลนาลิลอะซีเตต, ไลนาโลออล, เจอรานิออล, และเบนซิลอะซีเตต อีกทั้งยังมีสารหอมคูมาริน และเอทิล วานิลลิน สรรพคุณทางยาในตำราไทยนั้น ใบเตยสดช่วยในเรื่องการบำรุงหัวใจ ช่วยลดการกระหายน้ำ ในส่วนของรากใช้เป็นยาขับปัสสาวะ และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานได้อีกด้วย
ที่มานำเสนอนี้มีอยู่เพียง 3 ชนิดที่ช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยในเรื่องของโรคเบาหวาน แต่ในตำรายาไทยนั้น ยังมีผักและผลไม้อีกหลายชนิด ที่สามารถช่วยในเรื่องของโรคเบาหวานได้ เช่น กระชาย กระเทียม ใบกระเพรา ใบขี้เหล็ก แครอท และอื่น ๆ อีกมากมาย สมุนไพรเหล่านี้นับเป็นสมุนไพรชั้นยอด ดังนั้นควรที่จะหามากินกันนะครับ