ปลูก ผักหวาน ขายปลูกง่าย ดูแลไม่ยากรายได้หลักแสนต่อปี

ผักหวาน

ผักหวาน เป็นผักที่เราสามารถพบได้ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยทั่วไปจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดคือ ผักหวานบ้าน และผักหวานป่า หลายคนก็นิยมชมชอบรสชาติของผักหวาน เพราะเป็นผักที่โตและสมบูรณ์ได้เองตามธรรมชาติ อีกทั้งแทบจะไม่มีศัตรูพืชมารบกวน และแน่นอนว่าปลอดสารเคมีอย่างแน่นอน แต่ก็มีผู้คนอีกส่วนหนึ่งไม่ค่อยชอบมากนัก เหตุผลเพราะเป็นผักที่มีกลิ่นแรง เหม็นเขียว วันนี้ผมจะพามารู้จักกับผักหวานให้มากขึ้น ถึงวิธีการปลูกผักหวาน เพื่อใช้ในการกินเอง หรืออาจนำไปขายก็ได้

ผักหวาน เป็นผักที่เราสามารถพบได้ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยทั่วไปจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดคือ ผักหวานบ้าน และผักหวานป่า หลายคนก็นิยมชมชอบรสชาติของผักหวาน เพราะเป็นผักที่โตและสมบูรณ์ได้เองตามธรรมชาติ อีกทั้งแทบจะไม่มีศัตรูพืชมารบกวน และแน่นอนว่าปลอดสารเคมีอย่างแน่นอน แต่ก็มีผู้คนอีกส่วนหนึ่งไม่ค่อยชอบมากนัก เหตุผลเพราะเป็นผักที่มีกลิ่นแรง เหม็นเขียว วันนี้ผมจะพามารู้จักกับผักหวานให้มากขึ้น ถึงวิธีการปลูกผักหวาน เพื่อใช้ในการกินเอง หรืออาจนำไปขายก็ได้

ผักหวาน คืออะไร

ผักหวานนั้นมีชื่อเรียกแตกต่างกันตามแต่ภูมิภาค เช่น ในภาคเหนือเราจะเรียกกันว่า เจ้าผักหวาน ผักก้านตง ใต้ใบใหญ่ หรือในภาคใต้เราจะเรียกผักหวานว่า ผักหวานใต้ใบ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ก็มีการเรียกชื่อผักหวานว่า มะยมป่า หรือแม้แต่ในจังหวัดสตูล ก็มีการเรียกผักหวานว่า นานาเซียม ผักหวานเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะเป็นไม้พุ่มต้นแข็ง สูงอยู่ที่ประมาณครึ่งเมตรถึง 2 เมตร มีกิ่งก้านที่ค่อนข้างเล็ก ทรงของต้นจะมีลักษณะตั้งตรง เปลือกต้นจะมีความขรุขระ และมีสีน้ำตาล โดยมีกิ่งแก่จะมีสีเขียวปนเทา กิ่งอ่อนจะมีสีเข้มออกสีเขียว

ผักหวาน

ใบจะมีลักษณะเป็นคล้ายกับขนนก มีใบย่อยที่มีการแตกเป็นคู่สลับกัน ใบย่อยกลมขอบขนาน ออกจะเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ความกว้างอยู่ที่ 2-3 เซนติเมตร และความยาวอยู่ที่ 3-5 เซนติเมตร จะมีโคนใบที่ค่อนข้างมน ปลายใบแหลม ขอบใบจะมีความเรียบ มีหูใบเป็นแผ่นเล็ก ๆ อยู่บริเวณโคนก้านใบ ก้านใบลักษณะจะเป็นก้านใบสั้น ในส่วนของดอกจะมีสีเขียวอมเหลืองและสีน้ำตาลแดง หรืออาจมีสีม่วงแดงหรือแดงเข้มก็ได้ จะกระจุกกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 2-4 ดอก ดอกจะเป็นดอกเดี่ยว

ประโยชน์ของ ผักหวาน

ผักหวานบ้านเป็นพืชผักที่ชาวบ้านนิยมนำมาประกอบอาหารชนิดหนึ่ง โดยปกติแล้วจะใช้ในส่วนของยอดอ่อนนำมาปรุงอาหารประเภทแกงเลียง แกงส้ม หรืออาจนำมาเป็นผัดผักหวาน หรือนำมาต้มกะทิจิ้มกับน้ำพริก ด้วยรสชาติที่มีความหวานกรอบและอร่อย

บริเวณยอดผักหวานนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการค่อนข้างสูง โดยเฉพาะมีวิตามินอี ที่ช่วยในการบำรุงสายตา ปริมาณของใบอ่อน 100 กรัมให้พลังงานเพียงแค่ 39 กิโลแคลอรี มีใยอาหาร โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก อีกทั้งยังมีวิตามินบี 1 บี 2 และวิตามินบี 3 ด้วย สารอาหารที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่พบในผักหวานและไม่ค่อยได้พบในผักชนิดอื่น ๆ คือวิตามินเค ซึ่งมีส่วนในการช่วยบำรุงตับ และทำให้เลือดที่บริเวณปากแผลแข็งตัวเร็ว

ผักหวาน

ผักหวานนั้น ในสมัยโบราณก็นิยมนำมาทำยารักษาโรคได้มากมาย และใช้แทบจะทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นราก ลำต้น ใบ ก็สามารถใช้เป็นยารักษาโรคเลือด โรคที่มีอาการเสียดท้อง ไอ เจ็บคอ แก้ขัดปัสสาวะ อีกทั้งยังรักษาแผลในจมูกและในปาก หรือจะเป็นโรคฝีหนอง คางทูม นำมาเป็นส่วนประกอบของยาเขียวที่ใช้ในการรักษาพิษไข้ก็ได้เช่นกัน

วิธีปลูก ผักหวาน

ผักหวานที่นิยมนำมาปลูกกันนั้นจะเป็นผักหวานบ้าน ซึ่งเป็นพืชที่ขยายพันธุ์ได้ง่ายมากเลยทีเดียว ไม่มีความยุ่งยากในพืชชนิดอื่น โดยปกติเราจะขยายพันธุ์ด้วย 2 วิธี ได้แก่ วิธีการขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด และวิธีการชำกิ่ง

หากเราใช้วิธีการขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด เราควรเก็บเอาเมล็ดจากผลที่มีความแก่ โดยสังเกตได้ง่าย ๆ จากการที่ผลจะเริ่มแตกตามรอยร่อง เมล็ดจะมีสีดำ วิธีการของเราคือ การนำไปผึ่งลมให้แห้ง แล้วนำไปแช่น้ำ จากนั้นนำไปเพาะในกระบะเพาะที่มีการผสมดินทรายและแกลบ เมื่อต้นเริ่มงอกและเจริญเติบโต ให้ย้ายไปปลูกหรือเพาะเลี้ยงในถุงให้โตในระดับหนึ่ง ก่อนที่จะนำไปปลูกลงแปลง โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 6 เดือนถึงนำไปลงแปลงปลูกได้

อีกวิธีหนึ่งคือ การนำมาชำกิ่ง โดยเราจะตัดกิ่งกิ่งอ่อนกิ่งแก่จากต้นแม่ ความยาวท่อนละประมาณ 3 ข้อ หรืออยู่ที่ประมาณ 20 เซนติเมตร โดยเราจะปักชำในกระบะทรายที่มีการผสมแกลบและดินไว้ แล้วนำไปตั้งไว้ที่มีแสงแดดรำไร ระยะเวลาประมาณ 45-60 วัน ก็สามารถที่จะย้ายไปลงแปลงปลูกได้ หรือเราอาจจะปักชำลงในถุงดิน เพื่อที่เราจะสามารถเคลื่อนย้ายหรือนำไปลงแปลงปลูกได้สะดวกสบายมากขึ้น หรืออาจนำไว้สำหรับเอาไปขาย

“อ่านบทความอื่นเกี่ยวกับเกษตรได้ที่นี่”

อ้างอิง

https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1517376

http://postnoname.com/keep-pakhwanpea-fresh-for-a-week/

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
VK

Table of Contents