วันนี้จะมาว่าด้วยเรื่องของ จิ้งโกร่ง สัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่นับได้ว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจ และสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรถึงหลักแสนเลยทีเดียว หากจะกล่าวถึงจิ้งโกร่ง หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้มากนัก แต่หากกล่าวถึงจิ้งหรีด หลายคนอาจจะมีความคุ้นเคยขึ้นมาบ้าง เพราะได้ยินเสียงเจ้าสัตว์ตัวเล็กนี้อยู่บ่อย ๆ สัตว์สองชนิดนี้มีชื่อที่คล้ายกัน ลักษณะก็คล้ายกัน แต่สัตว์สองชนิดนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ผมจะพามาทำความรู้จักครับ อีกทั้งยังมาว่าด้วยเรื่องของจิ้งโกร่ง กับการกลายมาเป็นสัตว์เศรษฐกิจในปัจจุบัน
จิ้งโกร่ง คือ ตัวอะไร
จิ้งโกร่งเป็นแมลงชนิดหนึ่ง ที่ในปัจจุบันผู้คนนิยมนำมารับประทานกันมาก มีลำตัวค่อนข้างอ้วน ลำตัวยาวประมาณ 4.5 เซนติเมตรและมีความกว้าง 1 เซนติเมตร จะมีสีน้ำตาล และจะมีหนวดยาว บริเวณหัวจะมีลักษณะกลมและใหญ่ โดยเสียงจิ้งโกร่งที่เราได้ยินกันนั้น โดยปกติจะเป็นเสียงของจิ้งโกร่งตัวผู้ ที่จะนำปีกคู่หน้ามาสีกัน จะมีหูไว้สำหรับฟังเสียงอยู่ที่ด้านหน้าของตัว ในแต่ละที่จะมีชื่อเรียกจิ้งโกร่งแตกต่างกันมากมายได้แก่ หัวตะกั่ว อ้ายโกร่ง จี้กุ่ง จี่ป่ม ขี้กุ่ง จี่นายโม้ ขี้หนาย และ จี่โป่ง
จิ้งโกร่ง กับ จิ้งหรีด มีความแตกต่างกันอย่างไร
อย่างที่กล่าวไว้ว่า แมลงทั้งสองชนิดนี้มีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นแมลงทั้งสองนี้ก็ไม่ใช่สัตว์ประเภทเดียวกัน โดยจิ้งโกร่งนั้นจะมีลักษณะลำตัวที่อ้วนกว่าจิ้งหรีด โดยปกติผู้คนจะไม่นิยมที่จะกินจิ้งหรีด แต่จะนำจิ้งโกร่งมากิน และทำเป็นอาหารต่าง ๆ เช่น จิ้งโกร่งทอด จุดสังเกตของจิ้งโกร่งก็คือ จะมีสีน้ำตาลอมเหลือง บริเวณหัวกลมใหญ่ แตกต่างจากจิ้งหรีดซึ่งมีลำตัวที่มีขนาดเล็ก จะมีทั้งสีดำ และสีน้ำตาล ถึงแม้ว่าการดำรงชีวิตจะมีลักษณะคล้ายกันก็ตาม
จิ้งโกร่ง กับการมาเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
อย่างที่บอก ว่าในปัจจุบันผู้คนนิยมบริโภคแมลงกันมากขึ้น เนื่องจากได้รับสมญาว่า เป็นแหล่งอาหารแห่งอนาคต มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก และบางประเภทก็ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเรา จิ้งโกร่งเป็นคำตอบที่ดีกับการนำมาเป็นสัตว์เศรษฐกิจเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นแมลงที่ค่อนข้างหายาก ดังนั้นความต้องการของตลาดจึงสูง ชาวบ้านที่เพาะเลี้ยงจิ้งโกร่งขายจึงมีรายได้ดี โดยปกติแล้วจะเพาะเลี้ยงจิ้งโกร่งกันเพื่อเป็นรายได้เสริมในช่วงที่ว่างเว้นจากการทำไร่ทำนา
ได้มีฟาร์มใหญ่ ๆ หลายฟาร์มที่เพาะพันธุ์ไข่จิ้งโกร่งไว้เพื่อขาย โดยปกติจะขายเป็นขัน ขันละประมาณ 500 บาท ซึ่งนับว่ามีราคาสูงมาก หากเทียบกับไข่จิ้งหรีดที่มีราคาอยู่ที่ขันละ 50 บาท และวิธีการเลี้ยงกับการดูแลก็ยากกว่าจิ้งหรีดอยู่มากเลยทีเดียว
จิ้งโกร่งเป็นสัตว์ที่ใช้เวลาเลี้ยงอยู่ที่ประมาณ 60 วันก่อนที่จะโตเต็มวัย จากนั้นจึงนำจิ้งโกร่งเหล่านี้ไปขาย อีกทั้งยังสามารถนำไข่จิ้งโกร่งที่ได้มาขยายพันธุ์ หรืออาจนำมาขายต่อได้อีก ดังนั้นการเลี้ยงจิ้งโกร่งจึงสามารถเลี้ยงได้ตลอดทั้งปีและมีรายได้ทุก ๆ 2 เดือน โดยปกติตามธรรมชาติแล้ว จิ้งโกร่งจะกินพืชผักเป็นอาหาร ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงจะน้อยกว่า แต่ก็มีข้อเสียคือ จิ้งโกร่งเหล่านั้นจะโตช้ากว่า และไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก ดังนั้นผู้นิยมเลี้ยงจิ้งโกร่งจึงนิยมให้อาหารข้น หรืออาหารสำเร็จรูปของแมลงขนาดเล็ก ซึ่งเป็นอาหารชนิดเดียวกับที่ใช้เลี้ยงจิ้งหรีด การเลี้ยงจิ้งโกร่งจะเลี้ยงในกล่องหรือลังขนาดประมาณ 120×240 เซนติเมตร ซึ่งจะเลี้ยงได้อยู่ที่ 12-20 กิโลกรัม ควรเลี้ยงในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก โดยปกติแล้ว การขายจิ้งโกร่งนั้น จะขายกันที่ฟาร์ม และผู้ที่มาซื้อจะขอเข้ามาติดต่อซื้อจิ้งโกร่งเอง
หากใครเกิดสนใจ การหาจิ้งโกร่งมาเลี้ยงเพื่อสร้างรายได้อีกทางเป็นความคิดที่ดีไม่น้อยครับ สัตว์เศรษฐกิจที่มีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน และขายได้ กำไรงามอย่างแน่นอนอีกด้วย
